สี่แผ่นดิน อินโดจีน : จากสยามสู่ กัมพูชา-เวียดนาม-ลาว : วันที่ 9

15 พ.ค. 2549
1
กว่า 22 ชม.

*เส้นทางการเดินทางทั้งหมด

22 ชม. !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! นานอย่างนี้เลยหรอครับพี่

วันนี้ผมจะต้องออกเดินทางจากโฮจิมินห์ไปฮอยอัน เป็นเวลากว่า 22 ชม. ตามพี่ที่ร้านทัวร์สุขสันต์บอกกับผมมา นี่จะเป็นการนั่งรถที่แสนยาวนานที่สุดครั้งแรกของผมเลย มันน่าดีใจตื่นเต้นดีไม๊เนี่ย

นอกจากการเดินทางด้วยรถบัสแล้วก็ยังสามารถเลือกไปกับรถไฟได้ด้วยหากอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ได้ข่าวว่าก็สะดวกสบายไม่ใช่น้อย คิดไปแล้วการเดินทาง 22 ชม.ในตอนกลางวันนี่ก็ดูจะเสียเวลาใช่เล่นเหมือนกัน แต่หากคิดให้กลายเป็นดีมันก็ดูน่าสนใจและประหยัดกว่าเครื่องบินมากนัก

*ผ่านในเมือง

หากแต่การนั่งรถเรื่อยไปแบบนี้จะทำให้เราใกล้ชิดและเห็นชีวิตของผู้คนริมสองข้างทางได้ง่ายกว่าการที่เราจะบินผ่านข้ามหัวพวกเค้าไป เว้นแต่จะไม่เห็นเป็นสำคัญ  

อันที่จริงหากมีเวลาอีกซักนิดผมก็อยากที่จะแวะเที่ยวไปตามเมืองที่รถผ่านเสียมากกว่า ซึ่งก็เห็นมีรูปโปรโมทสถานที่กันอยู่หลายเมืองน่าไปเยือนกันทั้งนั้น แต่เวลานี่สิมันไม่อำนวยอวยชัยกันบ้างเลย
 
หลังซัดอาหารเช้าที่เป็นไข่คนผสมเห็ด กับขนมปังปิ้ง ที่ผมเลือกจากของแถมแล้ว ก็มานั่งประจำที่เตรียมความพร้อมอยู่บนรถบัสคันใหญ่

2
มุยเน่…ได้เพียงแค่มองผ่าน

ด้วยภูมิประเทศที่ทอดตัวยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ ขนาบด้วยเทือกเขาในด้านตะวันตก ส่วนด้านตะวันออกก็ขนาบกับน้ำทะเลตลอดแนว นั้นจึงทำให้ทางรถไฟและถนน ที่วิ่งเรียบชายหาดดูสวยงามน่าสนใจตลอดทาง วิวดีๆอารมณ์ก็ดีตาม

 

*รถที่นั่งมา

รถบัสวิ่งมาจอดพักเที่ยงและรอรับคนอยู่ที่ มุยเน่(Mui Ne) หนึ่งในเมืองพักตากอากาศริมทะเลที่สำคัญของเวียดนาม นอกจากการโปรโมทว่าทะเลสวยแล้ว ที่นี่ยังมีทะเลทรายสีส้มหรือ Sand Dune ที่ปรากฎอยู่กลางแผ่นดินเป็นที่กว้างใหญ่เป็นจุดท่องเที่ยวเด่นของที่นี่

 

*ที่พัก+เรียงราย

ระหว่างรอสปาเก็ตตี้คาโบเนล่าที่ชื่อฟังดูน่ากินเชียว ผมก็ข้ามเดินไปดูริมทะเล รีสอร์ทที่นี่สร้างกันอย่างสวยงามและติดริมทะเลกันทั้งนั้น คลื่นในวันที่ไปค่อนข้างสูงและแรงทีเดียว ดูไม่น่าเล่นน้ำเท่าไหร่นัก และก็ไม่เห็นมีใครลงไปเล่นเช่นกัน

*ริมหาด

กลับมาสปาเก็ตตี้ก็มาอยู่ตรงหน้าพร้อมรอให้ชิมแล้ว อ้ำ ฮืม ! รสมันแย่พิลึกไม่สมกับชื่อเลยแฮะ

สปาเก็ตตี้ได้ลองแล้วแต่มุยเน่ยังไม่ได้ชิม เพียงแค่มองอย่างผ่านๆคงไม่อาจตัดสินอะไรเกี่ยวกับมุยเน่ได้มากนัก เพราะเราทั้งสองยังดูไม่รู้จักกันดีเลย จะรู้ก็เพียงว่ามุยเน่นั้นยังดูน่ารักน่าค้นหานัก

*ทะเลทราย รายทาง

*เพียงส่วนเล็กของทั้งหมด

*จากข้างทาง

 3
พานพบมิทันทัก จากญาจรัง สู่ ฮอยอัน

ริมถนนจากมุยเน่ มายัง ญาจรัง ของที่ชาวบ้านน้ำมาวางขายกันมากแต่ดันเป็นของที่ไม่น่าสนับสนุนนั้นก็เพราะชาวบ้านนำประการังรูปร่างแปลกตาจากในทะเล ซึ่งมีทั้งแบบทาเป็นสีสันแสบตา และแบบสีธรรมชาติ ของอย่างนี้ถ้าไม่มีคนไปซื้อหาก็คงจะไม่เกิดเป็นธุรกิจล่ำสัน เปิดกันหลายเจ้าขนาดนี้ หรือนี่ก็เป็นโอท็อปที่ระบาดมาอีกเช่นกัน

*วิวข้างซ้าย+หันซ้าย

*วิวข้างขวา+หันขวา

นอกจากนี้ผมยังเห็นซีพีมาตั้งโรงงานอะไรบางอย่างอยู่ริมทะเลที่นี่ด้วย เป็นบริษัทไทยก้าวไกลสู่ต่างแดน

6 โมงเย็นรถก็มาจอดที่บริษัท T.M Brother Cafe ในตัวเมือง ญาจรัง เมืองที่ผมออกเสียงในตอนแรกให้ที่ร้านทัวร์สุขสันต์ฟังว่า นาตรัง จนพี่ที่ร้านต้องสอนผมออกเสียงอยู่เป็นการใหญ่ ซึ่งเวลาพูดเสียงต้องขึ้นจมูกดูอยากกว่าที่คิด

ที่ ญาจรัง(หวังว่าจะออกเสียงกันถูกแล้วนะ) กิจกรรมที่นักท่องเที่ยว ทำมักเกี่ยวกับการเที่ยวทะเล และไปเกาะแก่งเพื่อดำน้ำกันซะส่วนใหญ่ ซึ่งก็มีแพ็คแก็จทัวร์ให้เลือกมากมายหลายแบบและหลายเจ้า

ผมมานั่งรออยู่ในร้านเพื่อรอเปลี่ยนรถอีกคันที่จะมารับ ซึ่งจะมีคนจากญาจรังเดินทางเพิ่มเติมไปด้วย  รถวิ่งไปตามถนนที่มืดมิดพร้อมกับความเสียวจากการขับรถที่คนขับมอบให้มากกว่าตอนกลางวัน ก็เพิ่มความน่าตื่นเต้นเป็นเท่าตัว

ยิ่งมานั่งอยู่ฝังเดียวกับคนขับก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เมื่อรถอีกเลนสวนสาดไฟหน้ามาทีชนิดที่ขับสวนกันใกล้มาก จนต้องเอนหัวออกมาจากการผิงกระจกอยู่เป็นระยะ

มืดแล้วบรรยากาศก็ไม่มีจะบรรยาย นอกจากความหิวที่อยากจะพูด ช่างทันใจนักรถก็มาจอดแวะทานข้าวที่ร้านข้างทาง คนทั้งรถกรูกันลงมาสั่งอาหารกันถ้วนหน้าอย่างหน้ามืด ทำให้ร้านดูวุ่นวาย ผมได้มาม่าวิญญานทะเล กับราคา 2 หมื่นมาชามนึงก็นับว่าโชคดีแล้ว เพราะหลังสั่งได้ไม่นานก็มีรถอีกคันกำลังมาจอดเทียบท่าให้แร้งลงซ้ำอีก

อิ่มแล้วก็นอนหลับ และได้แต่หวังว่าจะไม่ตื่นเพราะแสงไฟสาดหน้าขึ้นมาอีก จนกว่าจะถึง…ฮอยอัน

~ โดย dreamakersay บน เมษายน 14, 2007.

มีการตอบกลับหนึ่งครั้ง to “สี่แผ่นดิน อินโดจีน : จากสยามสู่ กัมพูชา-เวียดนาม-ลาว : วันที่ 9”

  1. สวยดีนะ

ใส่ความเห็น